วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

4 ประเทศต้นแบบ... ป้องกันอุทกภัยซ้ำรอย!!!

4 ประเทศต้นแบบ... ป้องกันอุทกภัยซ้ำรอย!!!

ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่พบกับเหตุการณ์น้ำท่วมร้ายแรง อีกหลายประเทศทั่วโลกก็เคยเผชิญกับภัยพิบัติเช่นนี้มาแล้ว แต่เขามีวิธีการที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีกเลย เราจะลองมาดูกันว่าประเทศอื่นๆเขาเตรียมความพร้อมกับการรับมือน้ำท่วมไว้ใน รูปแบบใดกันบ้าง

เนเธอร์แลนด์...ต้นแบบประเทศป้องกันภัยพิบัติทางน้ำ
ประเทศ เนเธอร์แลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ได้รับการยกย่องว่ามีระบบป้องกันน้ำ ท่วมที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากแผ่นดินกว่าร้อยละ 26 ของประเทศ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล โดยพื้นที่ที่ว่านี้เป็นจุดเสี่ยงเจอน้องน้ำรุกราน และเป็นฐานเศรษฐกิจที่สร้างรายได้กว่า 70% ของเนเธอร์แลนด์ รัฐบาลจึงยอมทุ่มงบประมาณถึง 2.4 แสนล้านบาท ในการสร้าง Delta Work หรือพนังกั้นน้ำที่สามารถสกัดคลื่นสูงถึง 40 ฟุตจากระดับน้ำทะเลยาวถึง 600 กิโลเมตร อีกทั้งสร้างประตูระบายน้ำบริเวณปากอ่าว เพื่อควบคุมน้ำทะเลไม่ให้ทะลักเข้าแม่น้ำ ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมในพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน

อังกฤษ...ประตูระบายน้ำพันปี

ประเทศ อังกฤษจัดว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แต่ตลอด 27 ปีที่ผ่านมา กรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศไม่เคยเจอน้ำท่วมเลยสักครั้ง เนื่องจากรัฐบาลเมืองผู้ดียอมทุ่มทุน 1.3 พันล้านปอนด์ สร้างประตูระบายน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากเนเธอร์แลนด์) ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำเทมส์ โดยประตูดังกล่าวมีความยาว 520 เมตร สามารถกั้นคลื่นได้สูงสุด 200 ฟุต มีระบบเปิดปิดอัตโนมัติตามความเหมาะสมของสภาพอากาศ ทั้งนี้คาดว่าประตูระบายน้ำมูลค่ามหาศาลนี้สามารถใช้งานได้นานเป็นพันปี

 

เยอรมนี...นำเสนอสะพานทางด่วนระบายน้ำ
ประเทศ เยอรมนีสร้างสะพานทางด่วนระบายน้ำ ซึ่งมีรูปร่างเป็นตัวยู ยกข้ามแม่น้ำเชื่อมต่อกับคลอง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำและช่วยผลักดันมวลน้ำส่วนเกินไป ที่ทะเล และยังสามารถเป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าได้อีกด้วย เรีบกว่าใช้ป้องกันน้ำท่วมและใช้ในการพาณิชย์ได้อย่างดีเยี่ยม

 

สิงคโปร์...เรียนรู้จะอยู่กับน้ำ

ประเทศ สิงคโปร์มีสภาพเป็นเกาะเล็กๆที่ล้อมไปด้วยน้ำจำนวนมหาศาล ดังนั้นระบบการจัดการน้ำจึงต้องพัฒนาอย่างขีดสุด เพราะเราแทบไม่เคยได้ยินข่าวว่าเกาะเล็กๆแห่งนี้เจอภัยพิบัติทางน้ำรุนแรง หรือป้องกันไม่ทัน โดยการจัดการน้ำที่ว่าก็คือ เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีความสามารถป้องกันพื้นที่ที่ต่ำกว่าระดับน้ำ ทะเลได้ และการออกแบบที่สวยงาม ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆก็อยากมาชมด้วยตาสักครั้ง

 

เห็น ไหมว่าแต่ละประเทศมองเห็นถึงผลของการลงทุนที่มหาศาลว่ามันคุ้มค่า และสามารถป้องกันได้จริง แล้วทำไมประเทศไทยถึงไม่นำประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาปรับและลองเปลี่ยนให้ ประเทศไม่เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นเป็นครั้งต่อไป...!!!

ข้อมูล : a day BULLETIN ISSUE 174

โดย: ไทยรัฐออนไลน์ไลฟ์สไตล์

28 พฤศจิกายน 2554, 14:00 น.

http://m.thairath.co.th/content/life/219749

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น