จะเสี่ยงวัดดวงหรือ?
ได้จังหวะเขย่าขวัญคนแหยงม็อบ กระตุกอารมณ์พวกเบื่อม็อบ
สัญญาณจากขาใหญ่กลุ่มพันธมิตรฯประกาศนัดรวมพลชุมนุมด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในการเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ไล่ฟ้องดะ ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ส่งต่อร่างพระราชกฤษฎีกาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ พร้อมกันนี้จะมีการเสนอเรื่องไปยังคณะองคมนตรี เพื่อยับยั้งในการ เสนอทูลเกล้าถวายคำแนะนำเพื่อรอให้กระบวนการขัดแย้งได้ข้อยุติ รวมทั้งจะมีการยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในกรณีการกระทำความผิดขัดต่อกฎหมายของ ครม.ในการปรับแก้ร่างพระราชกฤษฎีกาโดยมิชอบ
แต่สุดท้ายก็ประกาศยกเลิกการชุมนุม เพราะพอใจที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ยืนยันจะยึดพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ปี 2553 เป็นหลัก
และก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน โดยสัญญาณตอบรับจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสียงเข้มๆ จากหัวโจกกลุ่มคนเสื้อแดงลำปาง หัวขบวนเสื้อแดงขอนแก่น แนวร่วมภาคเหนือ ภาคอีสาน รัวเกราะเคาะไม้เรียกพลกองทัพแดงสนับสนุนพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษอดีตนายกฯทักษิณ
พร้อมลุยทุกกระบวนท่า ถึงขั้นท้า "ม็อบชนม็อบ"
กองเชียร์ กองแช่ง ตั้งป้อมเปิดแนวรบตะลุมบอน เตลิดไปไกลแล้ว
ทั้งๆ ที่ในขั้นของความชัดเจน ตัวเอกตามท้องเรื่องอย่างอดีตนายกฯทักษิณ ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือตัวเองจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และให้นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า
"จากการเสนอพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฯ จึงมีข่าวว่าอาจจะมีผมร่วมอยู่ด้วย ผมมั่นใจในหลักการที่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำการใดๆที่ให้ประโยชน์แก่ผม หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำใดๆในช่วงนี้ ต้องเป็นไปเพื่อนำประเทศสู่ความปรองดอง และฝ่าฟันวิกฤติจากภัยธรรมชาติน้ำท่วมใหญ่เท่านั้น"
ตามอาการ "ลอยตัว" ตีกรรเชียง
ขณะที่ "มือชง" อย่าง "สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ก็ยักท่าแค่ว่า เรื่องนี้คนเอาข่าวออกมาแพร่งพรายและวิพากษ์วิจารณ์ ไม่รู้กาลเทศะ เพราะยังไม่มีบทสรุป ไม่สามารถพูดได้ เพราะหากพูดไปก่อนแล้วภายภาคหน้าไม่เป็นไปตามนั้นก็อาจเสียคน
แทงกั๊ก พร้อมชักเข้า ชักออก
ไปๆ มาๆ คนที่รู้ตื้นลึกหนาบางกลายเป็นคนนอกอย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่รับมุกจาก "สารวัตรเหลิม" แพลมไต๋ "หนอนบ่อนไส้" 4 รัฐมนตรีที่เอาความลับเรื่องพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษมาปล่อยข่าวข้างนอก
คนแรกเป็นรัฐมนตรีที่กำลังจะแต่งงาน คนที่สองเป็นรัฐมนตรีที่ชื่อสั้นๆไม่กี่พยางค์ แต่ความหมายยาว ตัวป้อมๆ คนที่สามเป็นรัฐมนตรีพรรคร่วมคุมกระทรวง "อ" และคนที่สี่เป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเอง คุมกระทรวงใหญ่ แต่เพราะอยากเอาใจสื่อ บริหารงานก็งั้นๆไปได้เพราะมีผู้ใหญ่หนุน ประเภทน้ำเลี้ยงดี จึงเอาเรื่องนี้มาปูดจนกลายเป็นเรื่อง
ตามท้องเรื่องจึงต้องไปควานหา เค้นเอาความจริงจากปริศนา 4 รัฐมนตรี "หนอนบ่อนไส้"
ที่แน่ๆ ชนักของอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ใช่แค่โทษจำคุก 2 ปีในคดีที่ดินรัชดาฯ แต่ยังมีอีกหลายกรณีว่าด้วยคดีใช้อำนาจโดยมิชอบที่ค้างจ่ออยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของศาล
อาทิ คดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ 4,000 ล้านบาท คดีแปลงสัญญาสัมปทานธุรกิจโทรคมนาคมเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป คดีทุจริตการออกหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวโดยมิชอบ และคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือซุกหุ้น ที่ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องหลังศาลฎีกาฯได้ตัดสินยึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาท ดังนั้น การอภัยโทษแค่คดีจำคุก 2 ปีกรณีที่ดินรัชดาฯ ก็คงไม่มีผลอะไร
มันไม่มีหลักประกันใดๆ ถ้ากลับมาติดคุกพอเป็นพิธี 1-2 วัน แล้วจะหลุดบ่วงหมด
"นายใหญ่" จะเสี่ยงวัดดวงเชียวหรือ
ในเมื่อโฉบไปโฉบมาอยู่เมืองนอก ยังหายใจคล่องกว่า โดยเฉพาะถ้าเทียบกับพวกที่โดนล้อมกรอบเข้ามาเรื่อยๆ ตามคิวล่าสุดที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีสลายม็อบเสื้อแดงจนมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ พูดถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดี จะประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนวนคดีของตำรวจ เพื่อขอผลชันสูตรพลิกศพมาดูว่าการเสียชีวิตแต่ละรายมีใครต้องรับผิดชอบ
ยอมรับกันเลยว่า นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล คำให้การของพยานต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยบอกว่า ไม่รู้ว่าใครฆ่า เปลี่ยนมาเป็นอาจจะเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยเฉพาะในกรณีของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้การกับพนักงานสอบสวนตำรวจ พาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. ป.ป.ช.จะมีการทำหนังสือเชิญมาให้ปากคำอีกครั้ง แทนการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร
มีคนเริ่มเกิดอาการ "นอนไม่หลับ" ก็แล้วกัน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
โดย: ทีมข่าวการเมือง
21 พฤศจิกายน 2554, 05:03 น.
http://m.thairath.co.th/content/pol/218015
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น